วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

window 7 แปลงร่างเป็น Mac OS X Mavericks ได้ง่ายๆ




สำหรับ Mac OS X Mavericks ก็เป็น OS ตัวใหม่ที่ทาง Apple ได้ปล่อยให้กับนักพัฒนาได้ทดลองใช้งานมาสักระยะหนึ่งแล้วก็มีฝรั่งใจดีได้พัฒนาซอฟแวร์ที่จะมาแปลงร่าง windows ของเราให้หน้าตาเหมือนกับเจ้า Mac OS X Mavericks ซึ่งใครเบื่อกับหน้าเดิมๆของ windows ก็ลองดาวโหลดมาเล่นดูได้ครับ






Windows 7:  http://sta.sh/02seryx72a7

ขอ

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เผย 20 อันดับ Password อันตราย ที่โดนเจาะขโมยข้อมูลในเว็บไซต์ Adobe เรียบร้อย


เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Adobe ถูกแฮ็ก ข้อมูลผู้ใช้และซอร์สโค้ดของโปรแกรมหลุดสู่อินเทอร์เน็ต  และเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม  มีรายงานว่า ข้อมูลลูกค้ากว่า 38 ล้านราย และซอร์สโค้ดของโปรแกรมอย่าง Photoshop, Acrobat ถูกเผยแพร่อยู่ในเว็บไซต์ Bittorrent ด้วย และวันนี้ Mashable ได้เผย 20 อันดับรหัสอันตราย  ที่ลูกค้า Adobe ตั้งแล้ว โดน Hacker เจาะระบบไปเรียบร้อย 


รหัสผ่านยอดนิยม 20 อันดับ  ที่โดน Hack เจาะรหัสขโมยข้อมูลในเว็บไซต์ Adobe เมื่่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้แก่ 


1.123456
2.123456789
3.password
4.adobe123
5.12345678
6.qwerty
7.1234567
8.111111
9.photoshop
10.123123
11.1234567890
12.000000
13.abc123
14.1234
15.adobe1
16.macromedia
17.azerty
18.iloveyou
19.aaaaaa
20.654321

ยกตัวอย่างรหัสที่เดาง่ายๆอย่าง  ”qwerty,” “123123,” “iloveyou,” หรือ “letmein.” “123456″ มีคนตั้งรหัสนี้ไป 1.9 ล้านราย  และสำหรับรหัส 12345678 ม่ีคนตั้งรหัสนี้ 5 แสนราย  ซึ่งการตั้งรหัสที่เดาง่ายลักษณะนี้ ทำให้ง่ายต่อมิจฉาชีพที่จะแฮคเจาะระบบได้ง่าย แค่รหัสผ่านตามที่ยกตัวอย่างนี้ กระทบกว่า 2ล้าน 4 แสนรายที่โดนฺแฮคไปเรียบร้อย

วิธีป้องกันคือเปลี่ยนรหัสผ่าน โดยคุณต้องตั้งแบบในลักษณะ  ตั้งให้ผู้แฮคเดารหัสยากแต่เราจำรหัสง่าย ซึ่งเบื้องต้น ทางบริษัท Adobe ได้ทำการรีเซ็ตรหัสผ่านของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบและได้แจ้งให้ลูกค้าเปลี่ยนรหัสผ่านและข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว  นอกจากนี้ต้องอัพเดตโปรแกรมให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการโจมตีผ่านช่องโหว่ 0-day 


ขอขอบคุณข้อมูลจาก



วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556

5 ความจริงของ Task Killer บน Android




Task Killer – ปัญหาหนึ่งของผู้ใช้สมาร์ทโฟน โดยเฉพาะกับระบบปฎิบัติการณ์แอนดรอยด์ ก็คือแบตหมดไว ซึ่งมาจากหลายปัจจัย หนึ่งในนั้นต้องเกิดจากการเปิดใช้งานแอพฯ หลายๆ ตัว แล้วบังเกิดมโนภาพไปว่า สิ่งนี้น่าเป็นตัวการสำคัญให้ เครื่องอืด กินไฟ คล้ายๆ กับ เปิดโปรแกรมหลายๆ ตัวในวินโดวส์ พร้อมกัน  ทำให้บรรดาแอพพลิเคชั่น ช่วยปิด running app in Background หรือ Task Killer เกิดปะทุขึ้นมาราวดอกเห็ด ซึ่งความเป็นจริงแล้ว  มันเป็นแบบนี้จ๊ะ ….




1.  Android เป็น OS  multitasking ที่มีพื้นฐานมาจาก Linux สังเกต เวลาเข้า setting > app management > running app จะแบ่งแถบข้างล่างเป็น 2 ส่วน ได้แก่  running service กับ cached process คือ การจัดการ Memory แบบ Linux ที่ต้องลดการใช้งาน I/O  เช่น อ่านไฟล์จาก HDD หรือ flash memory ให้เหลือน้อยที่สุด



2. Android OS จะเลือกเอาไฟล์โปรแกรมที่เราใช้บ่อยๆ มาไว้ในส่วน cached process เวลาเปิดโปรแกรมจะได้อ่านจาก memory ได้เลย ซึ่งถ้าเปิดโปรแกรมที่ไม่อยู่ใน cached process ก็จะต้องโหลดไฟล์มาใส่ memory ก่อน จึงจะรันโปรแกรมได้ เป็นการโหลดเพื่อรันโปรแกรม



3. Task Killer แต่ละตัว จะไปลบไฟล์โปรแกรมที่ถูก cached ออกจาก Memory  เพื่อให้ผู้ใช้มองเห็นว่า free ram ได้เพิ่มขึ้น ซึ่ง free ram ดังกล่าว  นอกจากไม่ได้ทำให้เร็วขึ้น ยังกินไฟมากกว่าเดิมด้วย เพราะ OS จะพยายามหาอะไรมา cached process กลับเข้าไปให้เต็มอยู่ดี ฉะนั้น การโหลดไฟล์จาก flash เข้า memory ก็กินไฟ ยิ่ง kill task บ่อย มันก็ยิ่งโหลดบ่อย CPU ถูกปลุกจาก sleep state บ่อย กินไฟยิ่งขึ้นไปอีก!!!



4. การเรียกโปรแกรมที่ใช้ memory เยอะๆ เช่น เกม จึงควรรอให้ตัว OS จัดการ  cached process ทิ้งไปชั่วคราวด้วยตัวเอง 



5. ฉะนั้น การ kill task เพื่อให้เกิด free ram บน Android OS จึงเท่ากับไปสวนทางการทำงานของตัวAndroid OS  ที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว ” free ram is wasted ram ” Task Killer  ทั้งหลายจึงไม่จำเป็นด้วยประการฉะนี้จ้า!!




ขอขอบคุณข้อมูลดีดี จาก  http://tech.mthai.com/software/13404.html